ภาพต้องคมชัด มองเห็นได้ทุกรายละเอียด สามารถใช้เป็นหลักฐาน เมื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน คุณสิทธิชัย ศรีสงวนสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.จี.ดี. อินเตอร์ เทรดดิ้ง จำกัด ผู้คร่ำหวอดในวงการกล้องวงจรปิดมากว่า 25 ปีภายใต้เครื่องหมายการค้า ฟูจิโกะและเคนโปร ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสปริงนิวส์ เรื่องการติดตั้ง CCTV ว่า
ย้อนไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว CCTV ที่ความละเอียดระดับ 1 ล้านพิกเซล ราคาจะอยู่ที่ 2-3 หมื่นบาท แต่ปัจจุบัน CCTV ชนิด IP ราคาจะอยู่ที่เพียงไม่กี่พันบาทเท่านั้น ซึ่งบางโครงการได้ติดตั้ง CCTV ไว้ตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว แต่คุณภาพของกล้องก็ยังคงชัด ยังทำงานได้ปกติ ทำให้ไม่สามารถตั้งงบ เพื่อซื้อมาเปลี่ยนใหม่ทั้งหมดได้
ตามความจริงแล้ว เราไม่จำเป็นที่ต้องเปลี่ยน CCTV ทั้งหมด ทุกตัว พร้อมๆ กัน หากกล้องเหล่านั้น ยังคงสามารถใช้งานได้ ซึ่งคุณสิทธิชัย ได้อธิบายเหตุผลไว้อย่างน่าฟังว่า
เวลาที่เราสืบค้นเหตุการณ์จริง เราไม่ได้ใช้กล้องตัวเดียวในการสืบค้น กล้องตัวที่ 1 ไม่ชัด เราก็ยังมีกล้องตัวที่ 2, 3, 4,…ที่ภาพชัด เราก็เห็นได้ ว่าคนที่ก่อเหตุหรือบุคคลที่เราต้องการสืบค้นใส่เสื้อสีนี้ ลักษณะแบบนี้ ก่อเหตุตรงจุดนี้ โดยภาพจากกล้องตัวนี้อาจไม่ชัด แต่บริเวณอื่น กล้องตัวอื่นมีความชัด จุดประตูทางเข้า-ออก ภาพชัด แสงชัด ซูมตำแหน่งนี้ ยังไงต้องชัด ในกรณีมีกล้องบันทึกภาพอยู่แล้ว แนะนำให้เปลี่ยนกล้องตามงบประมาณที่มีได้ โดยเปลี่ยนเฉพาะจุดติดตั้งกล้องที่สำคัญ หากรู้จักผสมผสานเข้าด้วยกัน การบริหารจัดการก็จะใช้ประโยชน์มากที่สุดตามงบประมาณที่เรามีจำกัดได้
สิ่งที่อยากจะฝากทิ้งท้ายไว้ก็คือ สิ่งเราควรคำนึงอยู่เสมอ ก็คือเรื่องการบำรุงรักษาและอัพเกรดระบบ CCTV ของเราให้สามารถใช้การได้อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเทคโนโลยีรุ่นเก่าหรือใหม่ โดยควรคำนึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นที่ตั้งสำคัญที่สุด